Skip to main content

ประเทศไทย: นักกิจกรรมถูกคุมขังเนื่องจากวิจารณ์สถาบันกษัตริย์

เสี่ยงจะถูกควบคุมตัวอย่างยาวนาน ระหว่างรอการพิจารณาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่” เล่นพิณอิสานที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ระหว่างการประท้วงต่อต้านการคุมขังแกนนำนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยสี่คนที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย 7 มีนาคม 2564. © 2021 Watcharawit Phudork / Sipa via AP Images

(นิวยอร์ก) – ประเทศไทย ศาลอาญากรุงเทพอนุญาตให้ฝากขังแกนนำนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยระหว่างรอการพิจารณา ในข้อหาที่เกิดจากการดูหมิ่นกษัตริย์ ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวในวันนี้ คำสั่งศาลอาจส่งผลให้พวกเขาถูกควบคุมตัวระหว่างรอการพิจารณาเป็นเวลานานหลายปี

วันที่ 8 มีนาคม 2564 พนักงานอัยการของประเทศไทยมีความเห็นให้สั่งฟ้องปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ “รุ้ง”, จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่” และภานุพงศ์ จาดนอก หรือ “ไมค์” ในข้อหา หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จากการปราศรัยเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ระหว่างการชุมนุมทางการเมืองเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2563 ข้อหาตามมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญากำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 15 ปี นักกิจกรรมเหล่านี้ยังถูกดำเนินคดีข้อหายุยงปลุกปั่นตามมาตรา 116 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี ศาลอาญากรุงเทพไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นขอประกันตัว โดยศาลสั่งให้นำตัวจตุภัทร์และภานุพงศ์ไปขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ส่วนปนัสยาไปที่ทัณฑสถานหญิงกลาง

“กลายเป็นแบบแผนที่ขยายตัวมากขึ้นของการสั่งขังนักกิจกรรมไทยในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ระหว่างรอการพิจารณาเป็นเวลานาน” แบรด อดัมส์ (Brad Adams) ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว “ศาลควรคุ้มครองสิทธิที่จะได้รับการสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และประกันให้มีการปฏิบัติตามขั้นตอนของการพิจารณาที่เป็นธรรม” 

คดีเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากศาลมีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ให้คุมขัง แกนนำนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยสี่คน รวมทั้งอานนท์ นำภา, พริษฐ์ ชิวารักษ์, สมยศ พฤกษาเกษมสุข และปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม ระหว่างรอการพิจารณาในข้อหาที่คล้ายคลึงกัน ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ศาลปฏิเสธคำร้องขอประกันตัวพวกเขาถึงห้าครั้ง ระบุว่าเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปกระทำความผิดซ้ำหากได้รับการปล่อยตัว

กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ซึ่งประเทศไทยให้สัตยาบันรับรอง สนับสนุนให้มีการประกันตัวผู้ต้องหาคดีอาญา โดยข้อ 9 ระบุว่า “มิให้ถือเป็นหลักทั่วไปว่าจะต้องควบคุมบุคคลที่รอการพิจารณาคดี แต่ในการปล่อยตัวอาจกำหนดให้มีการประกันว่าจะมาปรากฏตัวในการพิจารณาคดี” บุคคลที่ไม่ได้รับการประกันตัว ต้องเข้าสู่การพิจารณาที่รวดเร็วสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว  

การดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว หลังงดเว้นการใช้ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมาเป็นเวลาเกือบสามปี ในเดือนพฤศจิกายน 2563 นายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชาสั่งการ ให้หน่วยงานไทยนำความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกลับมาใช้ใหม่ เพื่อตอบโต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เพิ่มขึ้นต่อสถาบันพระมหากษัตริย์  นับจากนั้นมา ทางการได้ดำเนินคดีกับบุคคลอย่างน้อย 60 คนในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ สืบเนื่องจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในระหว่างการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย หรือการแสดงความเห็นทางโซเชียลมีเดีย

ในแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทย ผู้ชำนาญการด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกล่าวว่า กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไม่มีที่ทางในสังคมประชาธิปไตย ทั้งยังแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อการดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่เพิ่มขึ้นนับแต่เดือนพฤศจิกายน และ บทลงโทษจำคุกที่รุนแรง ต่อจำเลยบางคน รวมทั้งกรณีการสั่งจำคุกเป็นเวลา 87 ปี (ลดโทษเหลือ 43 ปีเนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพ) เมื่อวันที่ 19 มกราคม โดยเป็นการลงโทษต่ออัญชัญ ปรีเลิศ ข้าราชการเกษียณ หากไม่มีการลดโทษ อัญชัญซึ่งปัจจุบันอายุ 65 ปี น่าจะต้องจบชีวิตลงระหว่างอยู่ในเรือนจำ ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว คำตัดสินเช่นนี้สร้างความหวาดกลัวต่อการใช้เสรีภาพด้านการแสดงออกและการชุมนุมอย่างสงบ

กติกา ICCPR คุ้มครองสิทธิที่จะมีเสรีภาพด้านการแสดงออก ความเห็นทั่วไปที่ 34 ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หน่วยงานผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศที่ดูแลการปฏิบัติตามกติกานี้ระบุว่า กฎหมายต่าง ๆ รวมทั้งกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ “ไม่ควรกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงกว่าคดีอื่น เพียงเพราะอัตลักษณ์ของบุคคลที่อาจถูกละเมิด” และรัฐบาล “ไม่ควรห้ามการวิจารณ์สถาบันต่าง ๆ” 

“ทางการไทยควรยุติการบังคับใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างเข้มงวดโดยทันที และหาทางเจรจาอย่างกว้างขวาง เพื่อปรับเนื้อหาของกฎหมาย ให้สอดคล้องตามพันธกรณีของประเทศไทยที่มีต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ” อดัมส์กล่าว 

Your tax deductible gift can help stop human rights violations and save lives around the world.